การประสบความสำเร็จอย่างผ่อนคลายเป็นไปได้จริงไหมในโลกยุคนี้?

ยุคที่หันไปทางไหนคนก็แข่งกัน อยากเป็นที่หนึ่ง อยากรวยเร็ว และอยากเป็นที่ยอมรับตั้งแต่อายุน้อยๆ

อันที่จริง "ความสำเร็จ" มีหน้าตาแบบไหน?

สำหรับบางคนมันอาจเป็นความเร่งร้อนดังข้างต้น

แต่กับบางคน แค่มีข้าวกิน 3 มื้อทุกวัน ก็อาจนับเป็นความสำเร็จได้แล้วเช่นกัน

การจะประสบความสำเร็จอย่างผ่อนคลายได้ เราต้องเคลียร์กับตัวเองว่า

สำหรับเรา "ความสำเร็จ" มันมีหน้าตาเช่นไร

มีมากแค่ไหนถึงจะเรียกว่าพอ และดูแลตัวเองได้

เคยได้ยินนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งพูดว่า ในโลกของเขา เขาประสบความสำเร็จกว่าคนอื่น

เพราะสิ่งที่คนอื่นไม่มีคือการ "รู้จักพอ" (ใครจำได้ว่าคนพูดชื่ออะไรมาบอกด้วยนะคะ)

ต่อให้หาเงินได้ร้อยล้าน แต่ไม่สามารถพอได้ ก็ยังถือว่าไม่สำเร็จ

บางคนบอกว่า นักธุรกิจคนนั้นก็พูดได้สิ เพราะเขามีเงินมากพอแล้วไง จนอาจจะไม่ต้องหาเพิ่ม

แต่เราลองเปรียบเทียบกัน สิ่งที่เราและนักธุรกิจคนนั้นจะต้องพบเหมือนกันก็คือ "ความไม่แน่นอน"

ถ้าวันพรุ่งนี้ใครสักคน อาจเป็นเรา หรือเขา ต้องตาย

เราอาจรู้ได้ว่า เราไม่ได้ต่างกันขนาดนั้น

ความจริงของโลกคือ "ความไม่แน่นอน" ความสำเร็จอย่างหนึ่งของคนเรา ขึ้นอยู่กับว่าเรา "วางใจ" ยังไง

.

เมื่อสำรวจลึกลงไปในจิตใจเรา เวลาคิดเกี่ยวกับความสำเร็จ

เราจะเจอจิตใจที่ชอบเปรียบเทียบ

สมมติว่าเราเดินออกจากบ้านแล้วเจอเพื่อนบ้านขับรถใหม่เอี่ยม

เราก็อาจคิดขึ้นมาแล้วว่า เราอยากเปลี่ยนรถบ้าง

จิตใจที่ชอบเปรียบเทียบจะหาสิ่งมาทำให้เราไม่พอใจบ่อยขึ้นเรื่อยๆ

และถ้าเราปล่อยให้ลิงตัวนี้ยังกุมบังเหียนอารมณ์ของเรา

เราจะไม่พอใจอะไรเลย

ถึงหาเงินได้ร้อยล้าน เราก็จะยังไม่พอใจ

และแม้คนรอบข้างจะสรรเสริญว่าเราช่างสำเร็จเหลือเกิน

ผลก็คือ ใจเราจะยังรู้สึกไม่สำเร็จอยู่นั่นเอง

.

แล้วทำยังไงจะทำให้ลิงตัวนี้ปลดบังเหียนลงได้?

เราอาจต้องกลับมาที่การ "มีสติ" และ "อยู่กับปัจจุบัน"

พูดเหมือนง่าย แต่ทำไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะใจเราแส่ส่ายไปมาตลอดเวลา

เทคนิคการกลับมาที่ปัจจุบันมีหลายอย่างแล้วแต่คนถนัด

บางทีกลับมาที่ลมหายใจ บางทีกลับมาที่อารมณ์ความสุขอันเป็นคุณภาพแท้จริงที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ภายใน

ไม่ว่าจะทำเทคนิคไหน ขอเพียงเราสุขกายสบายใจ เป็นใช้ได้

ความสำเร็จ อยู่ที่วิธีวางใจ

ถ้าวางใจถูก ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์คับขันแค่ไหน ก็ยังยืนหยัดได้ ยังตัดสินใจอย่างมีคุณภาพได้ ยังหาทางออกให้ตัวเองและคนรอบข้างได้

ต่อให้มีเงินแค่ 1 บาท แต่ถ้าวางใจได้ถูก ก็จะเห็นทางทำให้เงินนั้นเพิ่มขึ้น จนถึงจุดที่สามารถเลี้ยงตัวเอง ดูแลคนรอบข้าง (แม้ 1 บาทก็สำเร็จได้ถ้าวางใจถูก)

หลายคนใช้คำเรียกวิธีวางใจว่าเป็น Mindset แบบหนึ่ง

พริมอาจเรียกมันว่า ​Mindset ของนักภาวนา

เป็น Mindset ที่ช่วยเราออกจากสถานการณ์คับขัน หรือปัญหาได้ทุกอย่าง

เพราะในจุดหนึ่ง "ปัญหาเหมือนไม่ใช่ปัญหา" เมื่อมองด้วย Mindset แบบนี้

มันแค่สิ่งที่ผ่านเข้ามา และจะผ่านออกไป และตัวเราที่ถูกมันผ่าน ก็จะได้สั่งสมปัญญามากขึ้นเรื่อยๆ

Mindset ของนักภาวนานี่แหละ คือตัวการแห่งการประสบความสำเร็จอย่างผ่อนคลาย

เป็นสิ่งย้ำเตือนว่าเราทุกคนล้วนเกิดมา "สบาย" เพราะมีสิ่งนี้ติดตัวเราอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

#TheWaysOfFeminineStartup